Bitcoin / TetherUS
Обучение

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดขาลง ปี 2022

เหลืออีกแค่ สองวัน ก็หมดปี 2022 กันแล้ว ผมก็เลยแวะมาสรุป บทเรียน ที่ผมได้เรียนรู้ จากการเห็นคนอื่น และ ทำด้วยตัวเอง เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจ/อุทาหรณ์ ให้กับเหล่าเทรดเดอร์ในอนาคต ได้เรียนรู้กันไปครับ

1) ได้เงินมาเยอะแค่ไหน ตอนตลาดดีๆ ก็ไม่สำคัญเท่าการรักษาเงินก้อนนั้นไว้ตอนตลาดแย่ๆ

- ที่ยกให้ข้อนี้ขึ้นเป็นข้อแรก เพราะหลังจากผมคิดไปคิดมา ก็พบว่า ข้อนี้มันสำคัญสุดจริงๆ
- เพราะปีที่แล้ว ( 2021 ) เราจะเห็น success stories มากมายก่ายกองจากหลายๆ คน เช่น เปลี่ยนเงินสองแสนเป็นห้าสิบล้าน บางคนก็พอร์ตโตเป็นหลายร้อยล้าน วัยรุ่นหลายๆ คนก็ได้จับเงินหกหลักเจ็ดหลักกันถ้วนหน้า
- หลักๆ ที่ไปลองศึกษาแนวทางของคนเหล่านี้มา ก็คือ การ “All-in ไปเรื่อยๆ” เช่น จากเงินสองแสนไป all-in จนได้มาเป็น ห้าแสน … จากห้าแสนก็ all-in เป็น หนึ่งล้าน.. จากหนึ่งล้านก็ all-in เป็นสามล้าน.. วนๆ ไป และคนเหล่านี้ก็จะ “ไม่มีการคัทลอสด้วย เพราะเชื่อว่า ถ้าของดี เดี๋ยวมันก็แค่ย่อแล้วไปต่อ”
- ในช่วงตลาดดีๆ การทำแบบนี้มันจะให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ และพอร์ตก็จะโตเร็วมากๆ ด้วยเช่นกัน … แต่ก็นั่นแหละ ท่านี้มันมีปัญหาซ่อนอยู่ตอน “ตลาดขาลง”
- เพราะเมื่อไหร่ที่ตลาดเริ่มกลับตัว เป็นขาลง ถ้าคุณยังไปใช้ท่า all-in อยู่ ไม้สุดท้ายที่คุณไปเข้า คุณก็จะไปเข้าที่ “ยอดดอย” พอดี และพอคุณไม่มีแผนคัทลอส ก็จะทำให้การขาดทุน เริ่มลุกลามไปเรื่อยๆ
- จากขาดทุน 10% ก็กลายเป็น 20% กลายเป็น 50% รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็น 99%.. ได้มา 100 ล้าน ก็อาจจะเหลือแค่ 1-2 ล้าน
- หลายๆ คนก็จะชอบบอกว่า “โอ้ย ก็ยังมีกำไรอยู่เลย เพราะฉันลงไปแค่ 5 แสน ตอนนี้ก็ยังเหลือตั้ง 2 ล้าน มันก็ตั้ง 4 เด้งอยู่นา” … แหม แต่พี่จะไม่สะทกสะท้านกับกำไรทิพย์ 98 ล้านที่หายไปเลยเหรอครับ เป็นผม ผมเครียดนะครับ 555
- สุดท้าย ก็เหมือนเราต้องมาเริ่มกันใหม่หมด เดินไปข้างหน้า 100 ก้าว แล้วถอยหลังมา 98 ก้าว แบบนั้นก็เหมือนเหนื่อยฟรีครับ
- ดังนั้น การ “รักษากำไร” ที่ได้มาตอนตลาดดีๆ มันถึงสำคัญมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการ cash out ออกมาพักเป็นเงินสดนอกตลาดบ้าง หรือเอาไป diversify ลงทุนในสิ่งอื่นๆ บ้างเพื่อกระจายความเสี่ยง หรือถ้าตลาดโดยรวมเป็นขาลงก็ถือเงินสดทั้งหมดเลยก็ยังได้
- แต่ก็นั่นแหละ ถ้าคนเหล่านี้มีแผนรักษากำไร เขาก็คงจะไม่ all-in ทุกเม็ดตั้งแต่แรกอยู่ดีครับ พูดง่ายๆ ก็คือ เริ่มมาก็ติดกระดุมผิดเม็ดแล้วนั่นเอง..
- ปล. สำหรับสาย Maximalist เก็บยาวบน Time Horizon 200 ปี อันนี้เขาก้าวข้ามกำไร/ขาดทุน ทุกสิ่งอย่างไปหมดแล้ว ดังนั้น เราก็จะไม่ต้องไปสนใจเขาครับ ปล่อยเขาดำเนินแผนของเขาไป 555

2) ระบบอย่าง Trend Following บน Timeframe Daily+Weekly ช่วยป้องกันไม่ให้เราขาดทุนหนักได้

- สำหรับปีนี้ ระบบ Trend Following อย่าง Action Zone ( หรือ MACD ตัดศูนย์ ) เราเจอ false sig บน TF Daily กันกระจาย แต่ถ้าดูบน TF Weekly คือ ไม่มีสัญญาณซื้อเลยตลอดทั้งปี
- แต่ถ้าเราเข้าไปดูผลการเทรดจริงๆ ก็จะเห็นว่า ใน TF Daily เราขาดทุนไปจริงๆ ราวๆ -8% จาก false sig ทั้งหมดประมาณ 6 ครั้ง บนความเสี่ยง 2% Risk per trade
- ส่วน TF Weekly ก็คือ ไม่มีการเทรดเกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียวในปีนี้..
- ถ้าเทียบกับ Benchmark การ Buy & Hold BTC ตอนเริ่มปี 2022 ก็จะพบการขาดทุนถึง -65% และถ้า DCA ก็จะขาดทุนถึง -33% นั่นเอง ยังไม่นับพวกสาย all-in จากข้อ 1 ที่โดนกันไปราวๆ -80% ถึง -99% อีกนะครับ
- ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การที่เราจะสามารถ “รักษากำไร” ที่ได้มาตอนตลาดดีๆ ได้ สิ่งที่เราต้องมีก็คือ “ระบบการเทรด” ที่จะช่วยบอกเราว่า เมื่อไหร่ ที่เราควรถือเงินสด เมื่อไหร่ ควรกลับเข้ามาลงทุน และ “Money Management” ที่จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวม จากการ diversify กำไรออกไปไว้ที่อื่นที่เสี่ยงน้อยกว่าบ้างครับ
- เทียบง่ายๆ ก็คือ เหมือนเราก้าวไปข้างหน้า 100 ก้าว แล้วเราถอยหลังมาแค่ 8 ก้าวแล้วก็หยุด เวลาที่เราจะเริ่มเดินใหม่ เราก็เริ่มเดินที่ก้าวที่ 92 นะครับ มันต่างกับคนที่ต้องถอยมา 98 ก้าวแล้วต้องเริ่มเดินที่ก้าวที่ 2 เยอะมากๆ เลยนะครับ 555

3) พยายามคิดถึงความเสี่ยงให้รอบด้าน ถ้าท่าไหนมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินเยอะ หรือทั้งหมด..ก็อย่าเอาเงินเยอะเข้าไปเล่น

- ช่วงตลาดดีๆ หลายๆ คนจะชอบลืมมองข้อนี้กันไป เอาง่ายๆ ก็ตัวอย่างของเคส all-in ไปเรื่อยๆ ในข้อแรก มันก็มีความเสี่ยงมากมายที่เราจะเสียตังทั้งหมดไป ไม่ว่าจะเป็น product ที่เราไปลงมันโดน rug pull หรือการไม่มีแผนคัท ก็จะทำให้เราติดดอยและขาดทุนหนัก เป็นต้น
- ยังไม่นับเคสที่นอกเหนือความคาดหมาย เช่น FTX หรือ Zipmex หรือ Exchange อื่นๆ ล่มสลายอีก
- แถมเคสคริปโตทั่วไปอีก ที่หลายๆ คนกระโจนเข้ามากันแบบไม่มีความรู้ สุดท้ายพอเห็นว่าได้กำไรง่ายๆ ก็หอบเงินก้อนใหญ่มาลงกัน บางคนหนักกว่านั้นก็ไปกู้มาลงทุน… พอตลาดเป็นขาลงก็เจ๊งกันถ้วนหน้า
- เอาจริงๆ ข้อนี้มันก็เหมือนกับการทำธุรกิจแหละ เช่น บางคนก็เอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนทำอะไรบางอย่าง แล้วพอเจ๊ง ชีวิตก็เดือดร้อนไปเลย ต้องกู้หนี้ยืมสิน ติดวังวนหนี้กันไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
- สุดท้าย ก่อนเราจะลงทุนทำอะไรก็ตาม ให้คิดถึงความเสี่ยงก่อนเสมอ เอาง่ายๆ ให้คิดใน worst-case scenario ไปเลยว่า ถ้าเงินก้อนนี้หายหมด ชีวิตเราจะไม่เดือดร้อนนะ ชีวิตเรายังไปต่อได้นะ ถ้าดูแล้วสิ่งที่เราจะลง มันต้องใช้เงินเยอะ มากกว่าที่เราจะยอมเสียได้ ก็อย่าไปทำมันเลยครับ ลองเริ่มจากเล็กๆ ดูก่อน พอเรามีประสบการณ์ มีสกิล ก็ค่อยๆ ขยายไปก็ได้ครับ

4) การลงทุนอะไรที่ too good to be true จงอยู่ให้ห่าง

- ปีที่ผ่านมา เราเห็นการล่มสลายของสิ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินความจริงกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น..
* สารพัด DeFi ที่เคยให้ผลตอบแทนสูงถึงระดับ 100%++ APY … สุดท้ายก็เจ๊งกันหมด
* Anchor Protocol ที่ให้ผลตอบแทน 20% ต่อปี … สุดท้ายเจ๊งสนิท
* ZipLock ที่ให้ผลตอบแทนดี .. สุดท้ายก็เจ๊ง
* การขุดเหรียญสารพัด สามเดือนคืนทุน.. สุดท้ายก็ขุดไม่คุ้ม
* สารพัดแชร์ลูกโซ่ …ที่สุดท้ายก็ปิดตัวหนีกันไปหมด
- ทุกอย่างที่ว่ามาข้างบน จะเอาเลขผลตอบแทนที่ดีๆ เวอร์ๆ มาล่อกันทั้งนั้น แต่ถ้าเราแค่ “เอ๊ะ??” สักหน่อย เราก็จะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า.. มันเป็นไปได้ไงวะ? เราก็จะไม่ยุ่งกับพวกนี้เองครับ

5) จงเชื่อกราฟ อย่าไปเชื่อกูรู

- ในทุกขาขึ้น และขาลง จะมีกูรูมาทำนายเสมอ และแต่ละคน ก็จะเต็มไปด้วย Bias ของตัวเอง ทำนายถูก ก็ออกมาเคลม ทำนายผิด ก็… ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ทำนายใหม่ไปเรื่อยๆ
- สิ่งที่เราควรทำ ก็คือ อย่าไปฟังนักทำนายเหล่านี้มาก เพราะ ไม่มีใครรู้อนาคตได้จริงสักคนหรอก มั่วกันทั้งนั้นแหละ
- สิ่งที่จะบอกเราได้แน่ๆ ก็คือกราฟครับ พยายามดูให้เป็น ดูให้ออก ว่า กราฟแบบไหนที่เป็นทรงขาขึ้น กราฟแบบไหนที่เป็นทรงขาลง แล้วเราก็ take action ตามแผนไป
- ขาขึ้น ก็ทยอยเข้าตลาด ขาลง ก็ทยอยถือเงินสด แค่นี้เองครับ … มันเหมือนง่ายนะ แต่ทำโคตรยากเลยล่ะ

6) เมื่อสื่อพูดถึงสิ่งใดมากๆ… ให้ระวังจุดจบของสิ่งนั้นๆ

- ไม่ว่าจะเป็นจุดจบของขาขึ้น หรือจุดจบของขาลง .. มีวิธีดูง่ายๆ ดังนี้
- ถ้าสื่อพูดถึงแต่ข่าวดี เอากูรูสายมองขึ้นมาออกเยอะๆ ทำนายราคากันไปเท่านั้นเท่านี้ = ตลาดมีโอกาสจบรอบสูง ให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง ให้ดึงกำไรออกมากอดไว้บ้าง และเตรียมพร้อมเมื่อกราฟบอกให้เราหนี
- ถ้าสื่อพูดถึงแต่ข่าวร้าย เอากูรูสายมองลงมาทำนายวิกฤตกันไปเรื่อยๆ ซึนามิมาแน่ ปีหน้าเผาจริง = ตลาดมีโอกาสกลับตัวสูง ให้ทำการบ้าน หาหุ้น หาสินทรัพย์รอไว้ และเตรียมพร้อมจะซื้อเมื่อกราฟบอกให้เราเข้า
- แค่นี้เองครับ

7) อยู่ในเกมของตัวเอง อย่าไปเทียบอะไรกับคนอื่นเขามาก ทุกคนมีช่วงขึ้นและลงที่ต่างกัน

- ข้อนี้สำคัญมากๆ เช่นกัน เพราะบางทีเกมของเรา มันยังไม่มา แต่ของคนอื่นเขามาไปแล้ว พอเขาได้ตังเขาก็จะมาอวดกำไร พอเราเห็นกำไรเราก็จะเริ่มไขว้เขว และอาจจะกระโดดไปเข้าเล่นในสิ่งนั้นๆ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้ทำการบ้านอะไรมาเลย สุดท้าย ก็อาจจะโดนเล่นได้ครับ
- ดังนั้น ถ้าเราทำการบ้านในสิ่งใดๆ อยู่แล้ว และเรารอให้เกิด “สัญญาณ” อยู่ ก็ต้องอย่าวอกแวก ร้อนรน คันมือ ก็แค่ นั่งเฉยๆ รอทำตามแผนของเราไปครับ

ข้างล่างเป็น list ที่ผมคิดๆ เขียนๆ ไว้ตอนแรก แต่ไม่ได้หยิบมาอธิบายต่อ ก็แปะมาให้ลองเก็บไปคิดกันดูเองครับ
  • ถ้าคุณได้เงินมาเร็วๆ ง่ายๆ จากการลงทุนแบบไม่สนความเสี่ยง คุณก็จะคืนกำไรที่ได้มากลับไปให้ตลาดอย่างรวดเร็วเช่นกัน ตัวอย่างก็เช่นพวกชาว DeFi, GameFi 2021
  • สิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่รอดในตลาด ก็คือการรักษากำไรที่ได้มาเอาไว้ช่วงตลาดดีๆ ไม่ให้คืนไปตอนตลาดแย่ๆ
  • ตอนตลาดดีๆ กลยุทธกะโหลกกะลาแค่ไหน ถ้าไม่สวนเทรน ยังไงก็ได้ตัง แต่ตอนตลาดแย่ๆ ถ้าคุณไม่มีหลักการควบคุมความเสี่ยงที่ดี ยังไงก็หมดตัว
  • กลยุทธที่ทำแล้วได้ตังง่ายๆ ตอนตลาดดีๆ เช่น เห็นลงหนักๆ ก็ไปช้อนแบบจัดหนักจัดเต็ม พอเด้งก็ขาย … จะทำให้คุณหมดตัวตอนตลาดกลับมาเป็นขาลง
  • ตลาดไม่เคยขาดกูรู ตอนตลาดวิ่งแรงๆ ก็จะมีกูรูบอกเป้าว่าจะขึ้นไปเท่านั้นเท่านี้ พอตลาดลงหนักๆ ก็จะมีกูรูบอกเป้าว่าจะลงไปเท่านั้นเท่านี้ .. แต่ คนที่จะบอกว่าอนาคตจะไปทางไหน คือ Mr.Market เท่านั้น ไม่ใช่กูรู ดังนั้น จงเชื่อตลาด
  • สำหรับคนที่ทำตามระบบ Consecutive Losses เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น จงวางแผนความเสี่ยง Risk per trade ให้ดี ที่จะไม่ทำให้พอร์ตเราพัง หรือเสียหายหนัก ตอนเจอ consecutive losses หลายๆ ทีติดกัน
  • ตลาดจะ Top ตอนทุกคนมองขึ้น ข่าวดีออกมารัวๆ กูรูเต็มตลาด เสมอ และ ตลาดจะ Bottom ตอนทุกคนมองลง ข่าวร้ายออกมารัวๆ กูรูหายหมด เสมอ
  • เมื่อคุณอยากอวดกำไรลงเฟส ลงเพจ ให้ทุกคนรู้ เมื่อนั้น มักจะเป็นจังหวะตลาด Top เสมอ
  • อย่ากู้เงิน เอาเงินร้อน มาเทรด เด็ดขาด
  • ถ้ามีกำไร ต้องมีแผนเก็บกำไรเสมอ อย่าปล่อยให้ตัวเองเห็นกำไรละลายหายไปต่อหน้าต่อตาเด็ดขาด
  • กำไรที่ได้มาจากข้อที่แล้ว ควรเก็บออกมากอดนอกสนามเลย อย่าเอาไป reinvest พร่ำเพรื่อ
  • อะไรที่ได้ตังง่ายๆ โดยไม่ต้องทำอะไร แค่ฝากเงินไว้เฉยๆ.. มันไม่มีจริง
  • ความเชื่อ มันน่ากลัว เพราะมันจะมาทำให้เราเชื่อจนไม่ยอมตัดสินใจ take action ที่ดี
  • การเข้ามาเทรด คือการทำให้ wealth ของเรางอกเงย เพื่อที่เราจะได้มีชีวิตที่มีคุณภาพดีขึ้น ไม่ใช่การเข้ามาเพื่อพิสูจน์ความเชื่ออันสุดโต่งของเราเอง
  • อะไรที่มีขึ้น ก็ย่อมจะมีลง อะไรที่ลงก็ย่อมจะมีขึ้น.. จงเตรียมพร้อมและวางแผนรับมือความเปลี่ยนแปลงเสมอ
  • มือใหม่เข้าตลาดมา ยังไงต้องเจ๊งอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ แต่ที่จะไม่ปกติคือ เข้ามาเจ๊งแล้วไม่ได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดนั้นๆ เลย
  • เพราะ ถ้าคุณเรียนรู้จากความผิดพลาด โอกาสที่คุณจะได้ตังในขาขึ้นรอบหน้าก็จะมีสูงขึ้น
  • การเทรดให้น้อยลงในตลาดขาลง นอกจากจะช่วยไม่ให้เราเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังช่วยให้เรารักษาสภาพจิตใจไม่ให้ถดถอยด้วย เพราะในการเทรด สภาพจิตใจของเรา สำคัญมากๆ ถ้าใจพัง มันจะทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจ หรือ ไปตัดสินใจทำอะไรที่จะทำให้พอร์ตพังมากยิ่งขึ้น ( เช่น เทรดแก้แค้น )
  • กลยุทธใดๆ ถ้ามันทำซ้ำอีกไม่ได้ ก็ไม่ใช่กลยุทธที่ดี เราก็แค่โชคดีต่างหาก
  • การทำตามกลยุทธอย่างมีวินัย มันช่วยให้เราไม่มีวันติดดอยหนัก และไม่มีวันตกรถ 100%
  • การถือเงินสดในช่วงตลาดขาลง จะทำให้เราได้เปรียบคนอื่นๆ เพราะเราจะมีเงินเอาไว้ซื้อของราคาถูก หลังจากมันเริ่มกลับตัวแล้ว
  • ตลาดขาลงที่ยาวนาน จะทำให้เราเริ่มหมดไฟ ท้อ และเลิกสนใจตลาดไป แต่อยากจะบอกว่า มันคือโอกาสที่ดีต่างหาก ดังนั้น จงอย่างทิ้งตลาด และเตรียมความพร้อมที่จะกลับเข้ามาเสมอ เพราะถ้าคุณไม่อยู่กับตลาดตลอด คุณจะไปรู้ตัวอีกทีตอนตลาดกลับเป็นขาขึ้นเรียบร้อยแล้ว..และแน่นอน ก็อาจจะมีโอกาสติดดอยใหม่เหมือนเดิมนั่นเอง 555
  • ช่วงตลาดดีๆ อะไรก็ดูดี ช่วงตลาดแย่ๆ อะไรก็พร้อมพังเสมอ ดังนั้น ถ้าได้ตังมาเยอะช่วงตลาดดีๆ ตอนตลาดเริ่มหัวทิ่ม ก็ต้อง cash out ออกมาก่อน
  • จงเป็นคนขี้ระแวง ถ้าเริ่มได้กลิ่นตุๆ ให้วิ่งหนีทันที อย่ามัวรอดูก่อน เพราะอาจจะช้าเกินไป


-- ส่งท้าย --
สุดท้ายนี้ ปี 2022 ก็น่าจะให้บทเรียนกับทุกคนที่เข้ามาตลาดกัน ไม่มากก็น้อย ตัวผมเองก็ได้ ตอกย้ำ บทเรียน ที่เคยตกผลึกมาก่อนหน้านี้ ว่า ... เออ ไอ้ที่เราคิดมา มันถูกแล้วล่ะ จงทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป
ส่วนใครที่เจ๊งหนักในปีนี้ แต่อยากจะเอาดีทางด้านการเทรดนี้จริงๆ ก็ขอให้อย่ายอมแพ้นะครับ เพราะจากที่ผมอ่านและฟังเทรดเดอร์ไทยและฝรั่งมาหลายท่าน บอกได้เลยว่า ทุกคน ต้องผ่านจุดนี้กันมาทั้งนั้น ... จุดที่เจ๊ง หมดตัว และไม่ยอมแพ้ ฮึด ลุกขึ้นมาสู้ต่อ ผมเองก็เคยผ่านมาเช่นกัน.. และ ในปีนี้ ผมก็รอดมาได้ โดยแทบไม่เสียหายหนักเลย
จงเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และก้าวต่อไปครับ เพราะ ข้อผิดพลาด คือ ครูที่ดีที่สุด ของเราครับ..
BTCUSDlesson2022Trend Analysis

- ถ้าอยากดูผล Backtest ของกลยุทธนี้ ให้เปิดผ่าน web browser บน PC นะครับ
- ถ้าอยากติดตามเพจ ก็เข้าไปไลค์ได้ที่ facebook.com/inwcoin
- ทุกบทวิเคราะห์ ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน เป็นเพียงการศึกษา Technical Analysis และบันทึกไว้เป็นหลักฐานของผมเองเท่านั้น
Мои профили:

Отказ от ответственности